ขณะนี้การใช้ยาไฮโดรซีคลอโรควิน (Hydroxychloroquine) ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง ซึ่งยานี้เป็นส่วนประกอบหลักในยาต้านมาลาเรีย จึงนำใช้ในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาและยารักษาสำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 แม้แต่ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา บราซิล รวมทั้งฝรั่งเศส ต่างให้ความสนใจและสนับสนุนการใช้ยาชนิดนี้สำหรับการป้องกันโรคโควิด-19
อย่างไรก็ตาม การทดสอบใช้ยาต้านมาลาเรียในกลุ่มผู้ป่วยวงจำกัดในประเทศจีนและฝรั่งเศสประสบความสำเร็จทำให้เกิดความหวัง แต่เมื่อทำทดสอบในระดับคลีนิกในขั้นตอนต่อไป กลับพบว่าไม่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะใช้เป็นยารักษาโรคโควิด-19ได้ องค์การอนามัยโลก (WHO) จึงสั่งยุติการทดสอบยาต้านมาลาเรีย เนื่องจากพิจารณาว่ายาชนิดนี้ไม่สามารถลดอัตราการเสียชีวิตในผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาได้
ยาไฮโดรซีคลอโรควินโดยปกติใช้สำหรับการรักษาโรคมาลาเรียเป็นหลักและโรคอื่นๆ เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคข้ออักเสบ จากคุณสมบัติของยาชนิดนี้สามารถลดอาการไข้และอักเสบ ทำให้เกิดความหวังที่สามารถใช้ยาต้านนี้ในการหยุดยั้งการทำงานของไวรัสที่ก่อโรคโควิด-19
จากการทดสอบการใช้ยาต้านมาลาเรียในวงจำกัด บ่งบอกว่าสามารถลดระยะเวลาของอาการในผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาบางราย แต่ไม่พบการเปลี่ยนแปลงในผู้ป่วยรายอื่น หลังจากนั้นมีการศึกษาทดสอบการใช้ยาต้านมาลาเรียกับกลุ่มผู้ป่วยระดับคลีนิก จำนวน 11,000 รายทั่วประเทศอังกฤษโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด พบว่าไม่มีเปลี่ยนแปลงที่พึงประสงค์จากผู้ป่วยจากโรคโควิด-19 จึงถอดถอนยาต้านมาลาเรียจากงานวิจัยนี้
ผลข้างเคียงของยาต้านมาลาเรีย
ในบางประเทศมีการอนุญาตใช้ยาต้านมาลาเรียกับผู้ป่วยจากโรคโควิด-19ในวงจำกัดภายใต้การควบคุมของผู้เชี่ยวชาญการแพทย์เท่านั้น
เดือนมีนาคม องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ได้อนุมัติให้ใช้ยาต้านมาลาเรียในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น พร้อมคำเตือนเกี่ยวกับผลข้างเคียงของการใช้ยาชนิดนี้ ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาการเต้นหัวใจผิดปกติในผู้ป่วยโควิดบางราย และห้ามใช้ในภายนอกโรงพยาบาล รวมทั้งการทดสอบในคลีนิก
อย่างไรก็ตามในเดือนมิถุนายน องค์การฯได้ถอดถอนยาต้านจากตลาดทันที หลังจากไม่พบประสิทธิภาพในการต้านไวรัสก่อโรคโควิด-19ของยาชนิดนี้ และมีรายงานการเกิดภาวะเป็นพิษจากยาในบางรายที่แอบรับประทานโดยปราศจากการควบคุมของแพทย์
ทำไมเกิดประเด็นเกี่ยวกับการใช้ยาต้านมาลาเรีย
เนื่องจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีท่าทีสนับสนุนการใช้ยาต้านมาลาเรีย รวมทั้งยาในตระกูลใกล้เคียงเช่น ยาคลอโรควิน หลังจากผลวิจัยทดสอบการใช้ยาต้านมาลาเรียในผู้ป่วยวงจำกัดในประเทศจีนและฝรั่งเศส ว่า ยาชนิดนี้สามารถรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ได้ ทำให้เกิดข้อโต้เถียงอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ รวมทั้งกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ถึงความเป็นไปได้ในข้อดีและข้อเสียและผลข้างเคียงของยาต้านมาลาเรีย นำไปสู่การขาดตลาดของยานี้ทั่วโลก
จากการศึกษาข้อมูลเปรียบเทียบการทดสอบยาต้านมาลาเรีย, ยาคลอโรควิน รวมทั้งยาหลอก ในบุคลากรทางการแพทย์กลุ่มแนวหน้าต่อสู้กับโควิด-19 ทั่วโลก ดำเนินการโดยหน่วยวิจัยโรคเขตร้อนของมหาวิทยาลัยมหิดลและออกซ์ฟอร์ด ซึ่งผู้นำการวิจัยชื้แจ้งว่า ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เชื่อว่ายาต้านมาลาเรียมีประสิทธิภาพในการป้องกันมากกว่าการรักษา ขณะนี้ยังไม่มีผลสรุปงานวิจัยตีพิมพ์ออกมา
แปลและเรียบเรียงโดย ดร.จักรี์รดา อัตตรัถยา