ประมาณหกเดือนที่แล้ว องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้รับรายงานจากทางการสาธารณสุขของสาธารณรัฐประชาชนจีนว่ามีโรคปอดติดเชื้อระบาดในหวู่ฮั่น ไวรัสที่ทำให้เกิดโรคนั้นมาจากสัตว์และติดต่อสู่คนได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว แม้ว่านักไวรัสวิทยาเคยมีการเตือนมานานแล้วว่าเชื้อ coronaviruses จากค้างคาวในจีนสามารถทำให้เกิดโรคระบาดได้ แต่เมื่อเกิดการระบาดแล้ว ทั้งนักวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขต้องเร่งทำความเข้าใจ และควบคุมไวรัสชนิดนี้ให้ได้ การระบาดครั้งนี้กระทบทั้งเศรษฐกิจและกิจวัตรประจำวันของผู้คนไปทั่วโลก
ขณะนี้มีหลายประเทศที่เริ่มเปิดประเทศอีกครั้ง โดยมีความหวังว่าจะสามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ แต่พวกเราไม่ควรลดระดับการเฝ้าระวัง เพราะจะทำให้เกิดการระบาดอีกครั้งได้ เช่น ในปักกิ่ง เกาหลี ญี่ปุ่น ที่เกิดการระบาดอีกรอบ หรือประเทศนิวซีแลนด์ที่พบผู้ติดเชื้อ 2 คนที่เดินทางมาจากอังกฤษหลังจากที่รัฐบาลได้ยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด เพื่อให้ประชาชนกลับไปใช้ชีวิตปกติเช่นเดิม และมีบางประเทศที่ไม่สามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ เช่น บางรัฐในสหรัฐอเมริกา
นักวิทยาศาสตร์พยายามอย่างมากที่จะศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเชื้อไวรัสนี้ ในช่วงแรกเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้คำแนะนำเกี่ยวการป้องกันตนเองจากเชื้อที่ใกล้เคียงกัน คือ โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงหรือซาร์ส ที่เกิดจากเชื้อ SARS-CoV หรือโรคเมอร์ส (MERS-CoV) แต่ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นบางอย่างผิด และยังมีอีกมากที่นักวิจัยต้องเร่งทำความเข้าใจ
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการระบาดหกเดือน รวมถึงสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ
เริ่มต้นการระบาด |
การค้นพบปัจจุบัน |
- เริ่มแรกของการระบาด จีนรายงานว่าเชื้อ Coronavirus ใหม่นี้ ไม่สามารถติดต่อได้ง่ายจากคนสู่คน |
- วันที่ 20 มกราคม 2563 พบว่าเชื้อสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ก่อนที่จะมีอาการ หรือคนที่ไม่มีอาการก็สามารถแพร่เชื้อได้เช่นกัน |
- เชื้อนี้คล้าย SARS และ MERS ติดเชื้อในปอดส่วนที่ลึก การแพร่ระบาดมาจากคนที่มีอาการ เช่น ไอ เป็นต้น |
- เชื้อ SARS-CoV-2 สามารถติดเชื้อในโพรงจมูกได้ ทำให้สามารถติดต่อกันทางการหายใจ หรือพูดคุยกับคนที่มีอาการได้ |
- อาการเริ่มแรกคือมีไข้ หายใจหอบ หรือไอ |
- อาการเริ่มต้นมีหลายอย่าง รวมถึงอ่อนแรง ท้องเสีย ปวดเมื่อยตามตัว รวมถึงสูญเสียการรับรสและกลิ่น |
- คนที่มีอายุมากกว่า 65 ปีเป็นกลุ่มเสี่ยง มีอาการรุนแรง |
- มีปัจจัยอื่นๆ นอกจากอายุ เช่น ความดันสูง โรคอ้วน หรือเบาหวาน หรือเชื้อชาติ เป็นต้น |
- เด็กมีอาการไม่รุนแรง |
- เด็กบางคนมีโรคแทรกซ้อนรุนแรง ร่วมกับการติดเชื้อ COVID-19 |
- คนป่วย 1 คน สามารถแพร่เชื้อต่อได้ 2-3 คน |
- เริ่มแรกบางประเทศมีอัตราการแพร่เชื้อต่ำ เพราะมีระยะห่างทางสังคม ต่อมาพบว่าการติดเชื้อเป็นกลุ่ม |
- มีการเสียชีวิตประมาณ 4% ของผู้ติดเชื้อ |
- อัตราการเสียชีวิตขี้นกับการตรวจโรคในแต่ละประเทศ และบางคนมีอาการน้อย หรือไม่แสดงอาการ |
- คนที่มีอาการหรือป่วยเท่านั้นที่ใส่หน้ากากอนามัย จากคำแนะนำของ WHO และ CDC |
- คนไม่มีอาการสามารถแพร่เชื้อได้ การสวมหน้ากากอนามัยลดการแพร่เชื้อได้ |
- ไม่มียารักษาและ ไม่มีวัคซีนในการควบคุมการแพร่กระจายของไวรัส |
- มีการวิจัยทดสอบยา พบว่า Remdesivir สามารถช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว หรือยา Dexamethasone ลดความเสี่ยงในการเสียชีวิต ยาโรคมาลาเรีย ไม่สามารถรักษาได้ และ มีวัคซีนมากกว่า 150 ชนิดกำลังพัฒนา และทำการทดลองในคน |
สิ่งที่เรายังไม่รู้
- ทำไมเชื้อนี้สามารถแพร่กระจายได้มากกว่า SARS หรือ MERS
- นักวิทยาศาสตร์ยังทำการค้นคว้าว่าไวรัสเข้าและออกจากเซลล์ได้อย่างไร และเซลล์ชนิดใดบ้างที่สามารถติดเชื้อได้ ตั้งแต่ปอดไปจนถึงลำไส้ และค้นคว้าว่าสัตว์ชนิดใดบ้าง ที่สามารถนำเชื้อมาสู่คนได้
แปลและเรียบเรียง : ดร.รัตนา เจริญวัฒนาเสถียร
ที่มา: https://www.sciencenews.org/article/coronavirus-covid-19-pandemic-six-months-what-we-know